๙ คำพ่อสอน
๑. ความเพียร
การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทน คือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อบางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันครึทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีไม่ครึต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา ครูและอาจารย์ ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๑๖)
สรุป : คนเราไม่ว่าจะทำสิ่งใด ก็ต้องอาศัยซึ่งความเพียรและความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหากเรามีความเพียรและความอดทนก็จะนำเราไปสู่ความสำเร็จได้ง่าย
การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทน คือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อบางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันครึทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีไม่ครึต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา ครูและอาจารย์ ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๑๖)
สรุป : คนเราไม่ว่าจะทำสิ่งใด ก็ต้องอาศัยซึ่งความเพียรและความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหากเรามีความเพียรและความอดทนก็จะนำเราไปสู่ความสำเร็จได้ง่าย
๒. ความพอดี
ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไปด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้นตามต่อกันไปเป็นลำดับผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน
(พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๐)
สรุป : การจะสร้างฐานะให้มั้นคงนั้น จะต้องมีความพอดี ความเหมาะสม ไม่ควจจะเร่งรีบ ควรจะสร้างพื้นฐานให้มั้นคงก่อน แล้วจึงค่อยเป็นค่อยไป เพื่อจะได้มีความมั้นคงและยั่งยืน
๓. ความรู้ตน
เด็ก ๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้วจะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่าง ๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน(พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็กประจำปี ๒๕๒๑)
สรุป : คนเราไม่ว่าจะทำสิ่งใด จะต้องรู้ตนอยู่เสมอ ไม่ลืมตัว ซึ่งจะำทำให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย และความสำเร็จและเจริญให้แก่ตนเองและผู้อื่นได้
๔. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมาก็จะต้องพยายามให้ในการให้นั้นให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้ (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๒๑)
สรุป : คนเราจะต้องรู้จักเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ ไม่เห็นแก่ตัว เมื่อมีคนให้เรามา เราก็ต้องรู้จักให้แบ่งปันคนอื่นบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งดีของคนที่อยู่ร่วมกันในสังคม
คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมาก็จะต้องพยายามให้ในการให้นั้นให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้ (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๒๑)
สรุป : คนเราจะต้องรู้จักเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ ไม่เห็นแก่ตัว เมื่อมีคนให้เรามา เราก็ต้องรู้จักให้แบ่งปันคนอื่นบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งดีของคนที่อยู่ร่วมกันในสังคม
๕. อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ
ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
(พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๔๙๖)
สรุป : การจะอยู่ในสังคมนั้น เราจะต้องมีความอ่อนโยน รู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนร่วมบ้าง แต่ต้องไม่ใช่ความอ่อนแอ
๖. พูดจริง ทำจริง
ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญจากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริงจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม (พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๐)
สรุป : เมื่อคนเราพูดสิ่งใดออกไปแล้ว ก็ควรจะรักษาคำพูดของตนเอง และต้องทำในสิ่งที่พูดออกให้ได้ด้วย มิฉะนั้นจะเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถืิอ ไม่สัจจะ
ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญจากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริงจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม (พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๐)
สรุป : เมื่อคนเราพูดสิ่งใดออกไปแล้ว ก็ควรจะรักษาคำพูดของตนเอง และต้องทำในสิ่งที่พูดออกให้ได้ด้วย มิฉะนั้นจะเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถืิอ ไม่สัจจะ
๗. หนังสือเป็นออมสิน
หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นคล้าย ๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้ (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ ในโอกาสที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๔)
สรุป : หนังสือเป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญ เพราะฉะนั้นเราจึงควรอ่านหนังสือเป็นประจำ เพื่อเป็นการเพิ่มความรู้ให้กับตัวเรา เพื่อให้รู้เท่าทันสิ่งต่างๆ
หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นคล้าย ๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้ (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ ในโอกาสที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๔)
สรุป : หนังสือเป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญ เพราะฉะนั้นเราจึงควรอ่านหนังสือเป็นประจำ เพื่อเป็นการเพิ่มความรู้ให้กับตัวเรา เพื่อให้รู้เท่าทันสิ่งต่างๆ
๘. ความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่างเด็ก ๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาดที่เจริญมั่นคง
(พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปีพุทธศักราช ๒๕๓๑)
สรุป : ความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานสำคัญของความดี เราจึงควรปลูกฝังเรื่องความซื่อสัตย์ให้กับเด็ก เพื่อที่เด็กจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไปในอนาคต
ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่างเด็ก ๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาดที่เจริญมั่นคง
(พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปีพุทธศักราช ๒๕๓๑)
สรุป : ความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานสำคัญของความดี เราจึงควรปลูกฝังเรื่องความซื่อสัตย์ให้กับเด็ก เพื่อที่เด็กจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไปในอนาคต
๙. การเอาชนะใจตน
ในการดำเนินชีวิตของเราเราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใด ๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะเราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริง ๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้น ๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ(พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ ๑๒ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๓)
สรุป : ในการดำเนินชีวิตประจำวันนั้น เราต้องพบเจอกับสิ่งต่างๆมากมาย ทั้งสิ่งที่ดี และสิ่งที่ไม่ดี เพราะฉะนั้นเราจึงต้องรู้จักข่มใจตัวเอง รู้จักห้ามใจ และต้องเอาชนะใจตนเองให้ได้ด้วย เพื่อจะได้เป็นดี คนแกร่ง ที่เข็มแข็ง ไม่อ่่อนไหว ไปกับสิ่งต่างๆ
ในการดำเนินชีวิตของเราเราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใด ๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะเราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริง ๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้น ๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ(พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ ๑๒ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๓)
สรุป : ในการดำเนินชีวิตประจำวันนั้น เราต้องพบเจอกับสิ่งต่างๆมากมาย ทั้งสิ่งที่ดี และสิ่งที่ไม่ดี เพราะฉะนั้นเราจึงต้องรู้จักข่มใจตัวเอง รู้จักห้ามใจ และต้องเอาชนะใจตนเองให้ได้ด้วย เพื่อจะได้เป็นดี คนแกร่ง ที่เข็มแข็ง ไม่อ่่อนไหว ไปกับสิ่งต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น